ขั้นตอนการเปลี่ยนผู้จัดการมรดก

responsibilities of an Estate Manager

สารบัญ

  1. หาหลักฐานว่าผู้จัดการมรดกโกง หรือไม่ทำหน้าที่
  2. เรียกร้องให้แบ่งมรดก
  3. หาทนายความยื่นคำร้องต่อศาล
  4. นำเสนอหลักฐานต่อศาล (ไต่สวนคำร้อง)​
  5. แต่งตั้งผู้จัดการมรดกใหม่

            สวัสดีครับ บทความนี้ผมจะมาพูดถึงเรื่องผู้จัดการมรดกนะครับ โดยตามหลักกฎหมายแล้วผู้จัดการมรดก มีหน้าที่รวบรวม ทำบัญชี และแบ่งปันทรัพย์สินซึ่งเป็นมรดกของผู้ตายให้ทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของผู้ตาย และที่สำคัญ ผู้จัดการมรดก ต้องเป็นบุคคลซึ่งศาลมีคำสั่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกนะครับ

โดยผู้จัดการมรดกมีสิทธิและหน้าที่ที่จะทำการอันจำเป็นเพื่อจัดการมรดกโดยทั่วไปและมีหน้าที่รวบรวมทรัพย์มรดกเพื่อแบ่งให้ทายาทโดยธรรมหรือผู้รับพินัยกรรม

ตลอดจนชำระหนี้สินของเจ้ามรดกแก่เจ้าหนี้ ทำบัญชีทรัพย์มรดก และทำรายการแสดงบัญชีการจัดการและแบ่งมรดก โดยต้องจัดการไปในทางที่เป็นประโยชน์ แก่มรดก จะทำนิติกรรมใด ๆ ที่เป็นปรปักษ์ต่อกองมรดกไม่ได้

หากผู้จัดการมรดกละเลยไม่ทำการตามหน้าที่ เช่น ปิดบังมรดกต่อทายาท หรือเบียดบังเป็นของตน หรือเพิกเฉยไม่แบ่งมรดกให้แก่ทายาท

ทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกหรือผู้มีส่วนได้เสียจะร้องขอให้ศาลมีคำสั่งถอนผู้จัดการมรดก เพราะเหตุผู้จัดการมรดกละเลยไม่ทำตามหน้าที่หรือเพราะเหตุอย่างอื่นที่สมควรก็ได้ และอาจมีความผิดอาญามีโทษจำคุกได้

ซึ่งในบทความนี้ผมจะพาผู้อ่านไปทำความเข้าใจการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังต่อไปนี้นะครับ

วิธีและขั้นตอนในการรวบรวมหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่าผู้จัดการมรดกโกงหรือบกพร่องในหน้าที่ 

การรวบรวมหลักฐานที่มีความชัดเจนจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการร้องเรียนและเปลี่ยนตัวผู้จัดการมรดก โดยหลักฐานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย:

  • เอกสารการเงิน : การตรวจสอบบัญชีธนาคารและเอกสารการเงินของผู้จัดการมรดก อาจช่วยให้เห็นถึงการโอนย้ายทรัพย์สินที่ไม่เป็นธรรมได้
  • บันทึกการจัดการทรัพย์สิน : ตรวจสอบการขายหรือจัดสรรทรัพย์สินที่ไม่เป็นไปตามที่กำหนดในพินัยกรรม
  • พยานบุคคล : ญาติหรือทายาทคนอื่น ๆ ที่ได้รับทราบถึงการกระทำที่ไม่ชอบของผู้จัดการมรดกสามารถเป็นพยานสำคัญได้

ผมขอยกตัวอย่างนะครับเช่น : ทายาทผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของครอบครัวหนึ่งได้รับการแจ้งจากผู้จัดการมรดกว่าที่ดินผืนหนึ่งได้ถูกขายแล้ว แต่กลับไม่มีเงินโอนเข้ามาในบัญชีครอบครัว การสอบถามกับญาติพบว่าผู้จัดการมรดกได้นำเงินนั้นไปใช้จ่ายส่วนตัว ซึ่งเป็นการโกงชัดเจน

การยื่นคำร้องเพื่อขอแบ่งมรดกอย่างเป็นธรรม 

เมื่อผู้จัดการมรดกปฏิเสธการแบ่งทรัพย์สินตามที่ควรเป็น ทายาทสามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้มีการแบ่งมรดกตามที่กำหนดในพินัยกรรมหรือกฎหมาย โดยคำร้องนี้ต้องประกอบไปด้วยหลักฐานที่สนับสนุนว่าผู้จัดการมรดกปฏิเสธหรือแบ่งมรดกไม่เป็นธรรม หากไม่เข้าใจติดต่อทนายความเพื่อให้ความช่วยเหลือได้นะครับ

ตัวอย่างคำร้อง : “เนื่องจากผู้จัดการมรดกปฏิเสธการแบ่งที่ดินในพื้นที่สำคัญที่เจ้าของมรดกได้ระบุไว้ในพินัยกรรม จึงขอให้ศาลมีคำสั่งให้แบ่งทรัพย์สินแก่ทายาทอย่างถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด”

การหาทนายความเพื่อช่วยยื่นคำร้องต่อศาล

การมีทนายความที่มีความเชี่ยวชาญในคดีมรดกจะช่วยให้การดำเนินคดีเป็นไปอย่างถูกต้องและครบถ้วน

การเลือกทนายความที่มีประสบการณ์ในคดีมรดกจะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จเพราะทนายความจะสามารถช่วยเตรียมหลักฐาน เอกสาร และแนวทางการร้องเรียนให้ตรงกับข้อเท็จจริงและกฎหมาย

ข้อแนะนำ : ควรเลือกทนายความที่มีผลงานในคดีมรดกให้ดีๆ และสามารถช่วยเจรจาหรือร้องเรียนกับศาลในกรณีที่มีการปกปิดทรัพย์สินหรือการกระทำผิดได้นะครับ

การนำเสนอหลักฐานต่อศาล (ไต่สวนคำร้อง)

การไต่สวนเป็นขั้นตอนสำคัญในศาลที่จะพิจารณาหลักฐานเพื่อพิสูจน์ข้อกล่าวหาว่าผู้จัดการมรดกมีการกระทำที่ไม่โปร่งใสหรือไม่ยุติธรรม โดยศาลจะตรวจสอบเอกสารหลักฐาน รวมถึงสอบปากคำผู้จัดการมรดกและพยานบุคคล เพื่อพิจารณาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่าผู้จัดการมรดกคนนั้นกระทำความผิดด้วยการโกงทรัพย์มรดกนั้นจริงหรือไม่

หลักฐานสำคัญที่ควรจะมีในการยื่นต่อศาลมีดังนี้ :

  • เอกสารรายการโอนทรัพย์สินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
  • บัญชีรายรับรายจ่ายที่ไม่สมเหตุสมผล
  • พยานบุคคลที่ได้รับทราบพฤติกรรมของผู้จัดการมรดก
  • การสอบถามหรือคำชี้แจงจากผู้จัดการมรดกที่แสดงถึงการบกพร่องหรือเจตนาไม่โปร่งใสในการจัดการทรัพย์มรดก

กระบวนการแต่งตั้งผู้จัดการมรดกใหม่

หากศาลวินิจฉัยได้ว่าผู้จัดการมรดกคนใดปฏิบัติหน้าที่ของตนไม่เหมาะสม ทายาทสามารถยื่นคำร้องขอให้ศาลแต่งตั้งผู้จัดการมรดกคนใหม่ได้ โดยผู้จัดการมรดกคนใหม่นี้ควรเป็นผู้ที่มีคุณธรรมและได้รับการยอมรับจากทายาทด้วยนะครับ

การคัดเลือกผู้จัดการมรดกใหม่มีดังนี้ :

  • เลือกคนที่มีความซื่อสัตย์ ไว้ใจได้ และมีความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ได้อย่างดี
  • ศาลอาจพิจารณาให้ทายาทที่มีความเหมาะสมมาเป็นผู้จัดการมรดกใหม่เพื่อความเป็นธรรมและโปร่งใส

สรุป

การจัดการกับผู้จัดการมรดกที่โกงหรือปฏิบัติหน้าที่ไม่เหมาะสมนั้นควรเริ่มจากการรวบรวมหลักฐานที่เพียงพอ

จากนั้นดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอแบ่งทรัพย์สินตามที่ควรจะเป็น และเรียกร้องให้ศาลพิจารณาเปลี่ยนตัวผู้จัดการมรดกเป็นบุคคลที่ทายาทสามารถเชื่อถือได้

การตัดสินใจอย่างชัดเจนและรวดเร็วจะช่วยให้ทายาทได้รับความเป็นธรรมและป้องกันการสูญเสียทรัพย์สินที่ควรเป็นของตนได้อย่างยุติธรรมนะครับ

เนื้อหาโดย ทนายเกริก

เรียบเรียงโดย ทนายแชมป์

สอบถามเพิ่มเติม

ติดต่อทนาย