การประกันตัว คืออะไร ทำตอนไหน ใช้เงินเท่าไหร่?

ประกันตัว คืออะไร ทำยังไง

การขอประกันตัว คือ การขออนุญาตให้ผู้ต้องหาหรือจําเลยพ้นจากการควบคุมของเจ้าพนักงานหรือศาลตามระยะเวลาที่กําหนด

เพื่อไม่ให้ผู้ต้องหาหรือจําเลยถูกควบคุมหรือขังเป็นเวลานานเกินกว่าความจําเป็น ในระหว่างการสอบสวนหรือระหว่างพิจารณาคดี เพราะหากไม่มีความจําเป็นต้องควบคุม ก็ควรที่จะได้รับการปล่อยชั่วคราวไป อันเป็นเรื่องเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพที่ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหา หรือจําเลยไม่มีความผิด ก่อนมีคําพิพากษาอันถึงที่สุด

การขอประกันตัวในชั้นศาลมี 3 ช่วง

ช่วงที่หนึ่ง คือ ประกันตัวก่อนถึงศาล จะเป็นการประกันตัวที่โรงพักและไปต่อที่สำนักงานอัยการ

ช่วงที่สอง คือ ประกันตัวต่อศาลแต่ยังไม่มีการฟ้องคดี เมื่อพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการนำตัวผู้ต้องหามาขอฝากขังต่อศาลและศาลอนุญาตให้ขังซึ่งถือว่าผู้ต้องหาอยู่ในอำนาจควบคุมของศาลแล้ว ซึ่งตรงนี้ยังไม่ได้มีการฟ้องคดีจริงๆ เรื่องก็ยังไม่ถึงศาล

ช่วงที่สาม คือ ช่วงที่ศาลรับฟ้องแล้ว ไม่ว่าจะฟ้องโดยอัยการ หรือประชาชนฟ้องเอง ถ้าศาลประทับรับฟ้องแล้วเราต้องไปประกันตัวที่ศาล

ถ้าไม่ประกันตัว เราต้องอยู่คุกจนกว่าคดีจะเสร็จ

ผู้ที่มีสิทธิยื่นคำร้องขอประกันตัว

  1. ผู้ต้องหาหรือจำเลย
  2. ผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้อง  เช่น บุพการี  ผู้สืบสันดาน  คู่สมรส  ญาติพี่น้อง  ผู้บังคับบัญชา

การขอประกันตัวต่อศาล

1. การขอประกันตัวระหว่างชั้นฝากขัง (ขณะเป็นผู้ต้องหายังไม่ได้ถูกสั่งฟ้องคดี)

ทําได้เมื่อผู้ต้องหาถูกเจ้าหน้าที่ตํารวจหรือพนักงานอัยการนําตัวมาขออนุญาตศาลฝากขัง ระหว่างที่ยังสอบสวนไม่เสร็จ ผู้ต้องหามีสิทธิยื่นขอประกันตัวต่อศาล

2. การขอประกันตัวชั้นพิจารณาคดี

ทําได้เมื่อผู้ต้องหาถูกพนักงานอัยการฟ้องต่อศาล และเปลี่ยนฐานะจากผู้ต้องหาเป็นจําเลย จําเลยมีสิทธิขอประกันตัวต่อศาลได้

ในคดีที่ราษฎรเป็นโจทก์ (ผู้เสียหายฟ้องเอง) เมื่อศาลประทับฟ้องแล้ว จําเลยจะยื่นขอประกันตัวก่อนวันนัดหรือในวันนัดที่ระบุในหมายเรียกให้มาแก้คดีก็ได้

3. การขอประกันตัวชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา

เมื่อมีกรณีที่จําเลยถูกขังหรือจําคุกโดยผลของคําพิพากษาศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ จําเลยอาจยื่นขอประกันตัวก่อนที่จะยื่นอุทธรณ์หรือยื่นฎีกา หรือจะยื่นขอประกันตัวพร้อมกันหรือหลังจากยื่นอุทธรณ์หรือยื่นฎีกาก็ได้

การขอประกันตัวดังกล่าว ให้ยื่นต่อศาลชั้นต้นที่พิพากษาคดี หรืออาจยื่นต่อศาลอุทธรณ์ หรือศาลอุทธรณ์ภาค หรือศาลฎีกา แล้วแต่กรณี

ทั้งนี้ การประกันตัวในชั้นใดก็จะใช้ได้ในชั้นนั้น เมื่อชั้นของการของประกันตัวเปลี่ยนไปก็ต้องยื่นขอประกันตัวใหม

หลักฐานที่ต้องนำมาแสดงในการขอประกันตัว

  1. บัตรประชาชน บัตรข้าราชการ หรือบัตรแสดงตำแหน่งหน้าที่การงาน ทะเบียนบ้านของจำเลยและผู้ประกันพร้อมสำเนา
  2. หลักทรัพย์ เช่น โฉนดที่ดิน หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (..3) เงินสด บัญชีเงินฝาก
  3. หนังสือรับรองจากต้นสังกัดหรือนายจ้าง (กรณีขอประกันตัวด้วยตำแหน่งหน้าที่)
  4. หนังสือรับรองราคาประเมิน (กรณีใช้โฉนดที่ดิน, หนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นระกัน)
  5. หนังสือรับรองจากธนาคาร (กรณีใช้สมุดเงินฝากเป็นประกัน)
  6. หลักฐานการยินยอมของคู่สมรส (กรณีผู้ประกันมีคู่สมรส)

วงเงินประกันตัวมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับ จำนวนโทษจำคุก ตามความผิดอาญาและข้อหา

การกำหนดจำนวนเงินประกันตัว

การกำหนดจำนวนเงินประกันตัวในสัญญาประกันตัวผู้ต้องหาลำดับที่ ข้อหา หรือ ฐานความผิด เงินสด (ขั้นต่ำ) ราคาประเมินหลักทรัพย์ (ขั้นต่ำ) ประมวลกฎหมายอาญา

  1. ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ  60,000 – 130,000
  2. แจ้งความเท็จ 40,000 – 70,000
  3. ฟ้องเท็จ 60,000 – 80,000
  4. เบิกความเท็จ 40,000 – 70,000
  5. หมิ่นประมาท 30,000 – 60,000
  6. เพลิงไหม้ 170,000 – 250,000
  7. ทำลายเอกสาร 30,000 – 60,000
  8. ปลอมเอกสารธรรมดาหรือเอกสารสิทธิ 70,000 – 150,000
  9. ปลอมเอกสารราชการ 80,000 – 150,000
  10. ปลอมเอกสารสิทธิซึ่งเป็นเอกสารราชการ 90,000 – 180,000
  11. โทรมหญิง 200,000 – 400,000
  12. อนาจาร 50,000 – 120,000
  13. ธุระจัดหาหญิง 200,000 – 400,000
  14. พรากผู้เยาว์ 80,000 – 160,000
  15. พรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร 100,000 – 200,000
  16. ฆ่าผู้อื่น 200,000 – 400,000
  17. ฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา 100,000 – 200,000
  18. พยายามฆ่าผู้อื่น 80,000 – 150,000
  19. ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย (ขับรถส่วนบุคคล) 80,000 – 150,000
  20. ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย (ขับรถบรรทุก , รับจ้าง) 120,000 – 200,000
  21. ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย (ตายหมู่ ตั้งแต่ 4 คนขึ้นไป) 150,000 – 300,000
  22. ทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส 80,000 – 160,000
  23. ทำร้ายร่างกาย 10,000 – 50,000
  24. ลักทรัพย์ 50,000 – 100,000
  25. วิ่งราวทรัพย์ หรือลักทรัพย์ตั้งแต่ 2 อนุมาตราขึ้นไป 80,000 – 160,000
  26. ลักทรัพย์เป็นแก๊งมิจฉาชีพ 100,000 – 200,000
  27. ชิงทรัพย์ 100,000 – 200,000
  28. ชิงทรัพย์มีอาวุธปืนและใช้ยานพาหนะ 150,000 – 300,000
  29. ชิงทรัพย์ทำร้ายเจ้าทรัพย์บาดเจ็บ 150,000 – 300,000
  30. ชิงทรัพย์ฆ่าเจ้าทรัพย์ 200,000 – 400,000
  31. ปล้นทรัพย์ 200,000 – 300,000
  32. ปล้นทรัพย์มีอาวุธปืนและใช้ยานพาหนะ 250,000 – 350,000
  33. ปล้นทรัพย์ทำร้ายเจ้าทรัพย์บาดเจ็บ 260,000 – 400,000
  34. ปล้นทรัพย์ฆ่าเจ้าทรัพย์ 300,000 – 500,000
  35. ฉ้อโกง 30,000 – 70,000
  36. ฉ้อโกงประชาชน 150,000 – 300,000
  37. ฉ้อโกงประชาชน หลอกลวงลักษณะจัดหางาน 180,000 – 400,000
  38. ฉ้อโกงมีพฤติการณ์เป็นแก๊งตกทอง แก๊งไพ่สามใบ 120,000 – 200,000
  39. โกงเจ้าหนี้ 40,000 – 80,000
  40. รีดเอาทรัพย์ 80,000 – 120,000
  41. กรรโชกทรัพย์ 100,000 – 200,000
  42. ยักยอกทรัพย์ 30,000 – 60,000
  43. รับของโจร 50,000 – 100,000
  44. รับของโจรมีพฤติการณ์เป็นคนร้ายลักทรัพย์ ชิงทรัพย์หรือปล้นทรัพย์ 100,000 – 200,000
  45. ทำให้เสียทรัพย์ 30,000 – 70,000
  46. บุกรุก 30,000 – 70,000
  47. บุกรุกเพื่อทำความผิดเกี่ยวกับเพศ ชีวิต ร่างกาย 100,000 – 200,000
  48. พยานขัดหมายศาล 50,000 – 100,000
  49. ...ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค 1 ใน 3 ของจำนวนเงินตามเช็ค แต่ไม่เกิน 200,000 บาท

การประกันตัวเป็นสิทธิที่เราจะขอได้ แต่ไม่ใช่สิทธิเด็ดขาดที่เราต้องได้แน่ๆ

หมายความว่าเราต้องทำให้ศาลเชื่อใจว่าเราควรได้รับการประกันตัว ซึ่งโดยปกติแล้วผู้พิพากษามีความตั้งใจให้เราประกันตัวระหว่างสู้คดีอยู่แล้ว แต่ถ้ามีเหตุผลที่กฎหมายห้ามไว้ เราก็จะไม่ได้รับการประกันตัว

เช่น จะไปทำความผิดเดิมอีก, จะไปรบกวนพยานหรือเอกสารหลักฐาน หรือเป็นคดีร้ายแรงกลัวว่าจะหนีไป เป็นต้น

เนื้อหาโดย นาเดียร์

เรียบเรียงโดย #ทนายแชมป์ #champlawyer

สอบถามเพิ่มเติม

ติดต่อทนาย

ใส่ความเห็น